TokenEx และ IXOPAY ควบรวมกิจการกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว

แพลตฟอร์มเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินสำหรับธุรกิจการค้าทั่วโลกได้นำเสนอการเปลี่ยนสินทรัพย์ในหลากหลายช่องทางให้อยู่ในรูปแบบโทเคน การจัดระบบการชำระเงิน และการจัดการวงจรชีวิตของบัตร

ทัลซา โอคลาโฮมา และเวียนนา ออสเตรีย, April 17, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — TokenEx ผู้ให้บริการโทเคนระบบคลาวด์ชั้นนำ และ IXOPAY ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการการชำระเงินอิสระชั้นนำ วันนี้จะประกาศข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการควบรวมกิจการ เพื่อสร้างผู้นำใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระดับโลก บริษัทที่ควบรวมกิจการจะมีชื่อว่า IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx และ Marc Olesen จะเป็นผู้นำองค์กรที่ควบรวมกิจการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการอนุญาตและค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนที่ลดลงสำหรับผู้ค้า พร้อมด้วยข้อมูลการชำระเงินที่ปลอดภัยที่ได้รับการรับรองโดย PCI

การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นการรวบรวมจุดแข็งในความเชี่ยวชาญของ TokenEx ในด้านโทเคนข้อมูลการชำระเงิน และการจัดการการชำระเงินระดับโลกของ IXOPAY รวมถึงความสามารถในการกำหนดเส้นทางธุรกรรมและการกระทบยอด

“การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมการชำระเงิน” Marc Olesen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว “ด้วยการผนึกกำลังกัน IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx จึงมีสถานะที่โดดเด่นในการช่วยผู้ค้าพัฒนากลยุทธ์การชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ทั้งในด้านยอดขายและรายได้สุทธิ”

การควบรวมกิจการของ TokenEx กับ IXOPAY ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการชำระเงินไปสู่การสนับสนุนแนวทางการชำระเงินด้วยตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว โดยส่งมอบแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบครบวงจรที่สมบูรณ์ ซึ่งรวมถึง:

  • การเปลี่ยนสินทรัพย์ในหลากหลายช่องทางให้อยู่ในรูปแบบโทเคน — Universal Tokens ช่วยให้ผู้ค้าสามารถใช้โทเคนการชำระเงินเดียวสำหรับการทำธุรกรรมทั้งแบบด้วยตนเองและแบบออนไลน์ และสำหรับตัวประมวลผลการชำระเงินทั้งหมด โทเคนดังกล่าวช่วยลดการจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินในหลายระบบ ลดความซับซ้อนของระบบ และให้ข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร
  • การจัดระบบการชำระเงิน — แพลตฟอร์มการจัดการการชำระเงินที่ปรับขนาดได้สูงสำหรับผู้ค้าได้มอบฟังก์ชันการกำหนดเส้นทางอัจฉริยะ การกระจาย และการจัดการความเสี่ยงที่ล้ำสมัย รวมถึงการกระทบยอดและการชำระบัญชีแบบรวมศูนย์ พร้อมด้วยการบูรณาการโดยใช้ปลั๊กอินของผู้รับชำระเงิน วิธีการชำระเงินทางเลือก และผู้ให้บริการการชำระเงินมากกว่า 200 ราย
  • การจัดการวงจรชีวิตของบัตร — ชุดความสามารถที่สมบูรณ์สำหรับการจัดการวงจรธุรกรรมทั้งหมดตามขนาด รวมถึงการอัปเดตบัตรที่หมดอายุ การใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของโทเคนเครือข่าย การกำหนดเส้นทางที่คล่องตัวด้วย BIN Lookup และการตรวจสอบธุรกรรมด้วย 3D Secure

“ด้วยการควบรวมกิจการกับ TokenEx เราไม่เพียงแต่นำความสามารถเฉพาะของเรามารวมกันเพื่อเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับผู้ค้าทั่วโลกเท่านั้น แต่เรายังสามารถใช้ความเชี่ยวชาญของทีมงาน TokenEx เพื่อให้บริการชั้นหนึ่งแก่ลูกค้าชาวยุโรปหลักของเราในตลาดสหรัฐอเมริกาอีกด้วย” Rene Siegl ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ IXOPAY กล่าว “สำหรับผู้ค้าที่ให้ความสำคัญกับความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มาพร้อมกับการปฏิบัติต่อการชำระเงินด้วยการใช้กลยุทธ์นั้น IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx จะส่งมอบแพลตฟอร์มการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินแบบหลายช่องทางที่สมบูรณ์แบบด้วยโทเคนที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันและการกำหนดเส้นทางธุรกรรมอัจฉริยะ — ซึ่งทำให้ผู้ค้าสามารถควบคุมรายได้และความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อการเติบโตในการค้าระดับโลก” ทั้ง Rene Siegl ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และ Nathalie Siegl ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะยังคงทำงานอยู่กับ IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx ในฐานะผู้บริหาร

เกี่ยวกับ TokenEx

TokenEx เป็นผู้ให้บริการโทเคนบนคลาวด์และการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินที่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือองค์กรอย่างปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการประมวลผลและส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โซลูชันชั้นนำของอุตสาหกรรมสำหรับการปกป้องข้อมูลสามารถรักษาความปลอดภัยและลดความละเอียดอ่อนขององค์ประกอบข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อลดความเสี่ยง ปรับปรุงการดำเนินงาน และใช้งานกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญได้

เกี่ยวกับ IXOPAY

IXOPAY เป็นแพลตฟอร์มการจัดการการชำระเงินที่ดีที่สุดที่นำเสนอตัวเลือกการประมวลผลการชำระเงินระดับโลกที่ยืดหยุ่นและเป็นอิสระ IXOPAY นำเสนอการกำหนดเส้นทางธุรกรรมที่ชาญฉลาดด้วยการจัดการความเสี่ยงและการฉ้อโกงแบบกระจายที่ทันสมัย การกระทบยอดและการชำระบัญชีอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การรายงานที่ครอบคลุมและการเข้าถึงผู้รับชำระเงิน ผู้ให้บริการการชำระเงิน และวิธีการชำระเงินทางเลือกหลายร้อยราย

ติดต่อด้านสื่อ:

Nicholas Mueller

nmueller@tokenex.com

510-289-2001

สามารถดูรูปประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/27147864-91b0-4683-aa19-d4c4690d323a

GlobeNewswire Distribution ID 9090807

Stevie® Awards ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล Stevie® Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า

แฟร์แฟกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย, April 17, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — ผู้ชนะรางวัล Stevie® Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นรางวัลด้านการบริการลูกค้าและรางวัลการขายอันดับต้น ๆ ของโลก ได้รับการเปิดเผยเมื่อคืนวันศุกร์ที่งานกาล่าในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้บริหารมากกว่า 400 รายจากทั่วโลกเข้าร่วม

สามารถดูรายชื่อผู้ชนะรางวัล Stevie ฉบับเต็มโดยแบ่งตามสาขาได้ที่ http://www.StevieAwards.com/Sales

องค์กรที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด 10 องค์กรในรางวัล Stevie Awards ด้านการขายและการบริการลูกค้าปี 2024 จะได้รับรางวัล Grand Stevie Award (“ซึ่งถือว่าดีที่สุดในรายการ”) ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไม่สามารถสมัครชิงรางวัล Grand Stevie Awards ได้โดยตรง ผู้ชนะจะถูกกำหนดโดยระบบการให้คะแนนตามจำนวนรางวัลทั้งหมดที่ได้รับ เช่นเดียวกับการมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในสาขาที่เลือก

DP DHL ที่มีสาขาทั่วโลกได้รับรางวัลระดับ Gold 13 รางวัล ระดับ Silver 18 รางวัล และระดับ Bronze 14 รางวัลจาก Stevie Award เป็นองค์กรที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในปีนี้ โดยได้รับถ้วยรางวัล Grand Stevie Award ในระดับสูงสุด องค์กรต่อไปนี้จะได้รับถ้วยรางวัล Grand Stevie Award ในงาน Stevie Awards ประจำปี 2024 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ในนามของตนเองและ/หรือลูกค้า โดยเรียงลำดับคะแนนจากมากไปน้อย มีการเสมอกันในอันดับที่เก้าระหว่าง Toco Warranty และ Purpol Marketing Limited

  1. DP DHL (ทั่วโลก) 96 คะแนน
  2. IBM (อาร์มองก์ รัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา) 64 คะแนน
  3. Support Services Group, Inc. (วาโก รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา) 49 คะแนน
  4. Allianz Services Pvt Ltd (ตริวันดรัม รัฐเกรละ อินเดีย) 39 คะแนน
  5. Sales Partnerships, Inc. (บรูมฟิลด์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา) 38.5 คะแนน
  6. UPMC Health Plan (พิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา) 31 คะแนน
  7. Blackhawk Network (เพลแซนตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 26 คะแนน
  8. VIZIO Inc. (เออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 22 คะแนน
  9. Toco Warranty (ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 19 คะแนน
    Purpol Marketing Limited (ชิปเพนแฮม สหราชอาณาจักร) 19 คะแนน

ผู้ชนะที่โดดเด่นรายอื่น ๆ ที่ได้รับรางวัล Gold Stevie Awards สามรางวัล ได้แก่ Alight Solutions (ลินคอล์นเชียร์ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) Optum (อีเดนแพรรี รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา) และ WNS (Holdings) Limited (เมืองมุมไบ อินเดีย)

องค์กรที่ได้รับรางวัล Stevie Awards ระดับ Gold, Silver หรือ Bronze รวมกันตั้งแต่ห้ารางวัลขึ้นไป ได้แก่ TransPerfect Translations นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (แปดรางวัล) VMware (Broadcom) ปาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (เจ็ดรางวัล) Intuit โทรอนโต แคนาดา (เจ็ดรางวัล) Avetta ลีหิ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา (เจ็ดรางวัล) SAP ทั่วโลก (เจ็ดรางวัล) ValueSelling Associates Inc. คาร์ลสแบด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) Element Electronics วินน์สโบโร รัฐเอสซี สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) Voya Financial นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) CivicPlus แมนฮัตตัน รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Capital Rx นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Datasite มินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Inspiro เมืองมาคาติ ฟิลิปปินส์ (ห้ารางวัล) Loveholidays ลอนดอน สหราชอาณาจักร (ห้ารางวัล) OpenGov ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) QNB Finansbank อิสตันบูล ตุรกี (ห้ารางวัล) และ Qualitest Group บริดจ์วอเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล)

การเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่า 2,300 รายชื่อจากองค์กรทุกขนาดและในแทบทุกอุตสาหกรรมได้รับการประเมินในการแข่งขันในปีนี้ ผู้ชนะได้รับการคัดเลือกจากคะแนนเฉลี่ยที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 200 คนทั่วโลก ซึ่งเป็นคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีเจ็ดสาขา

ผู้เข้าร่วมชิงรางวัลจะได้รับการพิจารณารางวัลด้านบริการลูกค้าและศูนย์การติดต่อกว่า 60 ประเภท รวมถึง ศูนย์การติดต่อยอดเยี่ยมแห่งปี รางวัลนวัตกรรมด้านการบริการลูกค้า และแผนกบริการลูกค้ายอดเยี่ยมแห่งปี ทั้งยังมีรางวัลด้านการพัฒนาธุรกิจและการขายกว่า 60 ประเภท ตั้งแต่ผู้บริหารการขายยอดเยี่ยมแห่งปี ไปจนถึงการฝึกปฏิบัติด้านการฝึกอบรมการขายแห่งปี ความสำเร็จด้านระบบอัตโนมัติการขาย และประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ บริการ และผู้ให้บริการโซลูชันใหม่ ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้ชนะในสาขาพิเศษหนึ่งรายการ ได้แก่ รางวัลด้านการขายในสาขาจริยธรรมในการเป็นพันธมิตรด้านการขาย ยังได้รับการประกาศและยกย่องในพิธีวันที่ 12 เมษายนด้วย รางวัลนี้ยกย่ององค์กรที่มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และมีความสำเร็จในการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานจริยธรรมสูงสุดในอุตสาหกรรมการขาย Integrity Solutions จากแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ชนะระดับ Gold Stevie ในสาขานี้ ผู้ชนะระดับ Silver ได้แก่ Better Way Health (เคนเนซอร์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา) Stateside Affairs (มานาสควอน รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา) และ Desiderate (นิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย) ผู้ชนะรางวัล Stevie ระดับ Bronze ได้แก่ Alright Retiree Health Solutions (ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) Belkins (โดเวอร์ รัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา) Rootstack (ปานามา) Shell International Aviation (มาคาติ ฟิลิปปินส์) TCN (เซนต์จอร์จ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา) และ Yuksekbilgili Egitim & Danismanli (อิสตันบูล ตุรกี)

ผู้ชนะรางวัล People’s Choice Stevie® Awards ประจำปี 2024 ด้านการบริการลูกค้าที่เป็นที่ชื่นชอบซึ่งได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 4 เมษายนยังได้รับการยกย่องในงานกาล่าที่มีการมอบรางวัลวันที่ 12 เมษายนอีกด้วย ผู้ชนะรางวัล People’s Choice Stevie Award จะได้รับรางวัล People’s Choice Stevie Award อันเป็นที่ต้องการ ซึ่งตัดสินโดยการโหวตจากสาธารณะชนทั่วโลก

การนำเสนอได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทาง Vimeo และ สามารถรับชมออนไลน์ได้

การเสนอชื่อเข้าชิง Stevie Awards ด้านการขายและการบริการลูกค้าประจำปี 2025 จะได้รับการยอมรับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ สามารถขอรับชุดเครื่องมือการเข้าร่วมได้ที่ http://www.StevieAwards.com/Sales

เกี่ยวกับ Stevie Awards
Stevie Awards จัดขึ้นในเก้าโครงการ ได้แก่ The Asia-Pacific Stevie Awards, The German Stevie Awards, The Middle East & North Africa Stevie Awards, The American Business Awards®, The International Business Awards®, The Stevie Awards for Great Employers, The Stevie Awards for Women in Business, The Stevie Awards for Sales & Customer Service และ Stevie Awards for Technology Excellence ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ มีผู้ส่งรายชื่อเข้าชิงรางวัลการแข่งขัน Stevie Awards มากกว่า 12,000 รายในทุกปีจากองค์กรต่าง ๆ ในกว่า 70 ประเทศ รางวัล Stevie เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งผลงานอันโดดเด่นในที่ทำงานจากทั่วโลกเพื่อแสดงเกียรติประวัติต่อองค์กรทุกประเภทและขนาดรวมถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังองค์กรเหล่านั้นด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล Stevie Awards ได้ที่ http://www.StevieAwards.com

ผู้สนับสนุนรางวัล Stevie Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ได้แก่ Sales Partnerships, Inc., Support Services Group, Inc. และ ValueSelling Associates, Inc.

ติดต่อด้านสื่อ:
Nina Moore
+1 (703) 547-8389
Nina@StevieAwards.com

สามารถดูรูปประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/e0520bf9-f814-4189-9d3f-b3a1f8a31877

GlobeNewswire Distribution ID 9090902

OSL ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อยสำหรับการเปิดตัวกองทุน Spot BTC/ETH ETF ของ China AMC ในฮ่องกง

ฮ่องกง, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — OSL Digital Securities แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตชั้นนำและองค์กรหลักของ OSL Group (863.HK) ได้รับเลือกจากบริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำในฮ่องกง China Asset Management (ฮ่องกง) (“ChinaAMC (HK)”) ให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกในการอนุมัติในหลักการและเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin/Ethereum ETF ในฮ่องกงเป็นครั้งแรก ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านภูมิทัศน์ทางการเงินของภูมิภาค และนับเป็นการประกาศถึงการลงทุนบทใหม่ในสินทรัพย์ดิจิทัล

เนื่องจากมีตลาดที่รองรับกองทุน Spot BTC/ETH ETF เพียงไม่กี่แห่งทั่วโลก โครงการริเริ่มของฮ่องกงจึงเป็นตลาดใหม่เคียงบ่าเคียงไหล่กับภูมิภาคบุกเบิกต่างๆ เช่น แคนาดา เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสะท้อนจากประสบการณ์ในสหรัฐอเมริกา ที่ Spot Bitcoin ETF สามารถรวบรวมได้กว่า 12.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น (ที่มา: SosoValue ณ วันที่ 12 เมษายน 2024) ตลาดฮ่องกงนั้นเปี่ยมไปด้วยศักยภาพและเป็นที่น่าดึงดูดใจของตลาด

ในความร่วมมือครั้งนี้ OSL ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย ซึ่งสำคัญต่อการดำเนินงานของ ETF ที่จะจัดการสินทรัพย์อ้างอิงอย่างรอบคอบ ในฐานะผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย OSL จะให้การรักษาความปลอดภัยระดับตัวอย่างที่เป็นไปตามมาตรฐานด้านกฎระเบียบ โดยจะมอบบริการการดูแลชั้นนำซึ่งรักษาความสมบูรณ์และความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่ได้รับการจัดการ

“เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีมงานมากความสามารถจาก China AMC นี่คือหลักชัยสำคัญในภาพรวมของ ETF” Patrick Pan ประธานคณะกรรมการและ CEO ของ OSL กล่าว “การได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่า OSL ได้รับความนับถืออย่างสูงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาการลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงให้ก้าวหน้า ซึ่งสะท้อนแนวโน้มความเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในตลาดสหรัฐอเมริกาอีกด้วย”

ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงแห่งเดียวของฮ่องกงที่อุทิศตนให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ในตลาดของ OSL Group (863.HK) นั้นเสริมความแข็งแกร่งด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ครอบคลุม ประสบการณ์การดำเนินงานที่กว้างขวาง และชื่อเสียงในตลาดที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทเน้นย้ำความสำเร็จนี้ด้วยการผ่านการตรวจสอบ SOC 2 Type 2 เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากับโมเดล B2B2C ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ OSL และบริการระดับสถาบัน ทำให้มั่นใจได้ว่า OSL จะไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OSL กรุณาเยี่ยมชม osl.com

ติดต่อประชาสัมพันธ์
media@osl.com

GlobeNewswire Distribution ID 9090178

OSL ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน รวมถึงเป็นตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สินรายแรกให้กับ Harvest Global ในการเปิดตัวการซื้อขาย Bitcoin และ Ethereum ETF แบบสปอตเป็นครั้งแรกในฮ่องกง

ฮ่องกง, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — OSL Digital Securities แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำที่ได้รับใบอนุญาต และเป็นองค์กรหลักของ OSL Group (863.HK) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน และเป็นตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สินรายแรกให้กับ Harvest Global ในการซื้อขาย ETF BTC/ETH แบบสปอตเป็นครั้งแรก ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติหลักการด้านการอนุญาตให้เสนอขายต่อสาธารณะในฮ่องกง ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญในภาคส่วนการเงินของภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

การซื้อขาย BTC/ETH ETF แบบสปอตได้รับการคาดหวังเป็นอย่างมากจากทั่วโลก และยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงในการทยอยนำกองทุนจำนวนมหาศาลและเหล่านักลงทุนเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล กลไกการเปิดเผยข้อมูลโดยตรงของ ETF เหล่านี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสภาพคล่องของตลาด

ในความร่วมมือนี้ OSL ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย ซึ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานของ ETF ที่จะทำให้สามารถจัดการสินทรัพย์อ้างอิงด้วยความแม่นยำและน่าเชื่อถือ ในฐานะตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สิน OSL รับประกันความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบในระดับสูงสุด ด้วยการนำเสนอบริการด้านการดูแลทรัพย์สินระดับสูง ที่รักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่เราบริหาร

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก และขอขอบคุณ Harvest Global ที่ได้เลือก OSL ให้ทำหน้าที่แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน และพันธมิตรตัวแทนการดูแลทรัพย์สินเป็นรายแรก” คุณ Patrick Pan คณะกรรมการและประธานกรรมการบริหารของ OSL กล่าว “สิ่งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่มีต่อเรา แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของ OSL ในฐานะองค์กรชั้นนำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของฮ่องกงมั่นคงอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับที่ผู้ออกหลักทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐฯ เลือกแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงเช่น Coinbase”

ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงแห่งเดียวของฮ่องกงที่อุทิศตนให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครบถ้วน ประสบการณ์การดำเนินงานที่กว้างขวาง และชื่อเสียงในตลาดที่แข็งแกร่งจะยิ่งทำให้ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของ OSL Group (863.HK) ในตลาดมั่นคงขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการตรวจสอบ SOC 2 ประเภทที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อปัจจัยเหล่านี้ผสมผสานเข้ากับโมเดล B2B2C ที่เป็นนวัตกรรมของ OSL และการให้บริการในระดับสถาบันแล้ว ยิ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่า OSL นั้นไม่เพียงแค่มีส่วนร่วมในตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงด้วย

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OSL โปรดเยี่ยมชม osl.com

ติดต่อประชาสัมพันธ์:
media@osl.com

GlobeNewswire Distribution ID 9090171

การแก้ไข: EMGA จัดหาวงเงินตราสารหนี้มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ MFO KMF ในคาซัคสถาน

ลอนดอน, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Emerging Markets Global Advisory LLP (EMGA) แถลงข่าวว่าได้รับวงเงินตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior Debt Facility) มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก JICA (The Japan International Cooperation Agency)

Shalkar Zhusupov ประธานคณะกรรมการบริหารของ KMF กล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ KMF ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ JICA ซึ่งมีเป้าหมายและพันธกิจที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายและพันธกิจของเราเอง เราต้องขอบคุณ EMGA และ JICA เป็นอย่างยิ่งที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุน เงินทุนจาก JICA จะนำมาใช้เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุนวิสาหกิจรายย่อย และวิสาหกิจขนาดย่อม รวมไปถึงวิสาหกิจในพื้นที่ชนบท ซึ่งจะทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ และมีส่วนช่วยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของวิสาหกิจเหล่านั้น”

Sajeev Chakkalakal หัวหน้าส่วนงานการธนาคารเพื่อการลงทุนและกรรมการผู้จัดการของ EMGA กล่าวว่า “เราดีใจที่สามารถจัดหาวงเงินตราสารหนี้ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่นี้ให้กับ KMF ซึ่งเป็นลูกค้าของเรามาอย่างยาวนาน เรารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับพวกเขาอีกครั้งในขณะที่พวกเขาสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะสถาบันการเงินรายย่อย (MFI) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และทำให้มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

Jeremy Dobson กรรมการผู้จัดการของ EMGA กล่าวเสริมว่า “การจัดหาเงินทุนครั้งใหม่นี้จะช่วยให้ KMF ส่งมอบได้ตามพันธกิจที่ระบุไว้ นั่นคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วทั้งคาซัคสถานอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาธุรกิจของพวกเขาโดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่ธุรกิจซึ่งมีผู้หญิงเป็นเจ้าของและธุรกิจในพื้นที่ชนบท”

MFO KMF เป็นหนึ่งในผู้นำของภาคธุรกิจการเงินรายย่อยในภูมิภาคเอเชียตอนกลาง บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความสัมพันธ์การเป็นพันธมิตรระยะยาวกับลูกค้า โดยอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเข้าใจ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน MFO “KMF” กระจายวงเงินกู้ให้แก่ลูกค้ารายบุคคลและแบบกลุ่มสำหรับกิจกรรมประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้: ธุรกิจ การค้า การทำไร่พืชและการเลี้ยงปศุสัตว์ การผลิตและการให้บริการ และการให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค

JICA: The Japan International Cooperation Agency เป็นองค์กรของรัฐบาลที่ส่งมอบความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจำนวนมากให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น กฎบัตรขององค์กรคือการช่วยเหลือด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่กำลังพัฒนา และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ

Emerging Markets Global Advisory Limited (EMGA) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในลอนดอนและนิวยอร์ก ช่วยเหลือสถาบันการเงินและองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังมองหาตราสารหนี้ใหม่หรือเงินลงทุนในทุนเรือนหุ้น (Equity Capital) ทีมงานในหลากหลายประเทศของ EMGA ได้ผสานรวมประสบการณ์หลายสิบปีที่จำเป็นต่อการบรรลุข้อตกลงการทำธุรกรรมในนามของลูกค้าภายในตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจชายขอบของโลก รวมถึงประเทศคาซัคสถานที่ยังคงเป็นตลาดหลัก ด้วยประวัติผลงานที่ได้พิสูจน์แล้วในการสร้างสมทุนและการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในตลอดทั้งวงจรเศรษฐกิจที่หลากหลาย EMGA ยังคงขยายการดำเนินงานทางพื้นที่ภูมิศาสตร์และการเสนอบริการต่าง ๆ ซึ่งทำให้อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในตลาดในฐานะหนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนเฉพาะกลุ่มที่มุ่งเน้นตลาดเกิดใหม่ที่มีความโดดเด่นทางอุตสาหกรรม

รายละเอียดการติดต่อ
info@emergingmarketsglobaladvisory.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000934893

การเรียกร้องการปฏิรูปการเงินโลก เพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้และสภาพภูมิอากาศครั้งแรกของโลก – จดหมายจาก Project Everyone

Stephen Fry, Annie Lennox, Christiana Figueres, Forest Whitaker, David Miliband, Graça Machel, Helen Clark และ Paul Polman หนึ่งในบรรดาเหล่าผู้ลงนามมากกว่า 100 รายในจดหมายที่ส่งถึงผู้นำกลุ่ม G20

ลอนดอน, April 15, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — แปดสิบปีนับจากที่ International Monetary Fund และ World Bank ได้ก่อตั้งขึ้น โดย ณ เวลานี้ แนวร่วมของเหล่านักแสดง นักการเมือง ศิลปิน และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำได้ส่งจดมายถึงเหล่าผู้นำ เศรษฐกิจที่สำคัญของโลก เพื่อเรียกร้องให้ยกระดับระบบการเงินโลกเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้และสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จดหมายดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาก่อนการประชุม World Bank และ IMF Spring Meetings ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต่อยอดมาจากการเรียกร้องให้ปฏิรูปการคลังสาธารณะทั่วโลก ที่นำโดยนาย Mia Mottley นายกรัฐมนตรีแห่งบาร์เบโดส, นาย William Ruto ประธานาธิบดีเคนยา และนาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

จดหมายดังกล่าวเรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยเพิ่มการลงทุนในธนาคารเพื่อการพัฒนาแบบพหุภาคีเป็นสามเท่า ยุติหนี้สินสาหัส และดำเนินการให้ผู้ก่อมลพิษต้องชดใช้ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาก่อขึ้น

โดยเหล่าผู้ลงนาม ได้แก่ คุณ Mariana Mazzucato นักเศรษฐศาสตร์, Dr. Mo Ibrahim นักธุรกิจ, คุณ Dia Mirza นักแสดง, เหล่าอดีตนักการเมืองทั้งคุณ Rory Stewart , คุณ Joyce Banda, คุณ Heidemarie Wieczorek-Zeul และ Helle Thorning-Schmidt รวมถึงเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นคุณ Richard Curtis, คุณ Juliano Ribeiro Salgado และ คุณ KondZilla

“สถาบันการเงินโลกไร้ซึ่งอำนาจไปเสียแล้ว” ข้อความจากจดหมายกล่าว “โลกสั่นสะเทือนด้วยความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงทางอาหาร การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้ว ความหายนะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปัญหาดังกล่าวยิ่งรุนแรงขึ้น เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนกำลังถูกคุกคาม มีคนจำนวนมากมาย มากจนเกินไปที่ต้องสัมผัสกับความขาดแคลน ความมัธยัสถ์ และความสิ้นหวัง”

Dr Joyce Banda อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมาลาวี: “ในฐานะผู้นำแห่งชาวแอฟริกา เราจำเป็นต้องลงทุนในด้านการฟื้นฟู การศึกษา สุขอนามัย และโภชนาการ แต่หนี้สินที่ไม่เป็นธรรมเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำความทุกข์ทรมานมาสู่ประชาชนของเราอย่างมิอาจเอ่ยได้ ซึ่งเนื่องมาจากการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่เพาะปลูก จนนำไปสู่ความขาดแคลนอาหารอย่างต่อเนื่อง เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งทำให้วงจรปัญหานี้หมุนเวียนไปไม่สิ้นสุด วงจรนี้ต้องจบลง ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนแปลงการคลังสาธารณะทั่วโลก เพื่อปูทางไปสู่อนาคตที่มีความยุติธรรมและมั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

David Miliband ประธานและ CEO ของ International Rescue Committee: “สภาพอากาศ ความขัดแย้ง และความยากจนมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ประเทศที่เปราะบางและได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งมากที่สุดในโลกมักเป็นประเทศที่มีความเปราะบางต่อสภาพอากาศมากที่สุด ดังนั้น เพื่อยุติความยากจนขั้นรุนแรงและเปิดโอกาสการพัฒนาอย่างยั่งยืน เหล่าผู้นำ G20 ควรสนับสนุนการปฏิรูปสถาปัตยกรรมทางการเงิน มอบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนผ่าน International Development Association ของ World Bank ให้มากขึ้น และทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมเพื่อให้มั่นใจว่างบประมาณนั้นจะไปถึงมือแหล่งที่จำเป็นที่สุด”

จดหมายดังกล่าวยังมี Save The Children, ONE Campaign, Oxfam, Project Everyone และ Christian Aid ร่วมลงนามด้วย โดยเรียกร้องให้เหล่าผู้นำของประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกคว้าโอกาสในการปฏิรูปนี้ไว้ โดยกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหล่าสถาปนิกของ World Bank และ IMF ได้จารึกชื่อของตนในประวัติศาสตร์ นี่เป็นโอกาสของท่านที่จะทำให้คำมั่นสัญญาของพวกเขาเป็นจริงนั่นคือ การเปลี่ยนแปลงเครื่องมือเหล่านี้เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง รวมถึงดำเนินการให้เครื่องมือเหล่านี้ทำงานเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของเราอย่างแท้จริง”

  • เราจะเผยแพร่จดหมายฉบับดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน เวลา 00:01 ตามเวลา BST ที่นี่
  • ผู้ประสานงานสื่อ: zofia.tanaka@digacommunications.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000934628